ความแตกต่างระหว่างการเชื่อม MIG และ TIG และวิธีการทำงาน

การเชื่อมเป็นกระบวนการสำคัญที่ใช้ในการประกอบและซ่อมแซมวัสดุโลหะ ซึ่งมีหลายวิธีที่ช่วยให้การเชื่อมมีความแข็งแรงและได้ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพสูง วิธีการเชื่อมที่ได้รับความนิยมและใช้กันอย่างแพร่หลายคือการเชื่อม mig กับ tig ต่างกันอย่างไร การเชื่อมทั้งสองวิธีนี้มีจุดประสงค์ในการทำงานที่คล้ายคลึงกัน แต่มีความแตกต่างในกระบวนการทำงาน รวมถึงอุปกรณ์และเทคนิคที่ใช้ ซึ่งเหมาะสมกับงานเชื่อมที่แตกต่างกัน การทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเชื่อม MIG และ TIG จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ช่างสามารถเลือกใช้วิธีการที่เหมาะสมที่สุดตามลักษณะงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การเชื่อม MIG และ TIG คืออะไร

1. การเชื่อม MIG (Metal Inert Gas Welding)

การเชื่อม MIG หรือที่รู้จักในชื่อการเชื่อมด้วยแก๊สปกคลุม เป็นกระบวนการเชื่อมที่ใช้ลวดเชื่อมซึ่งถูกป้อนออกมาอย่างต่อเนื่องขณะที่เกิดอาร์กและหลอมละลายเป็นรอยเชื่อม และมีแก๊สอินเนอร์เช่นอาร์กอนหรือคาร์บอนไดออกไซด์ในการป้องกันไม่ให้อากาศภายนอกเข้าไปสัมผัสกับรอยเชื่อม ซึ่งช่วยลดการเกิดออกไซด์ การเชื่อม MIG เป็นวิธีการเชื่อมที่เร็ว ง่าย และมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความรวดเร็วและปริมาณรอยเชื่อมสูง เช่น งานเชื่อมเหล็ก อะลูมิเนียม และ
สแตนเลสในงานอุตสาหกรรมและงานโครงสร้างทั่วไป

2. การเชื่อม TIG (Tungsten Inert Gas Welding)

การเชื่อม TIG ใช้ลวดทังสเตนเป็นตัวนำกระแสไฟฟ้าและแก๊สปกคลุมในการสร้างรอยเชื่อม ลวดทังสเตนจะไม่หลอมละลาย และหากต้องการเติมเนื้อวัสดุ จะใช้ลวดเติมแยกจากลวดทังสเตน การเชื่อม TIG ใช้แก๊สอาร์กอนในการปกป้องรอยเชื่อม จึงให้รอยเชื่อมที่มีคุณภาพสูงและเรียบเนียน การเชื่อม TIG เหมาะกับงานที่ต้องการรอยเชื่อมที่ละเอียดและมีความแม่นยำสูง เช่น งานเชื่อมสแตนเลส งานเชื่อมโลหะบาง งานในอุตสาหกรรมอาหาร และงานเชื่อมที่ต้องการรอยเชื่อมที่มีความสะอาดและทนทาน

การเชื่อม MIG และ TIG ต่างกันอย่างไร

การเชื่อม mig กับ tig ต่างกันอย่างไรทั้งในกระบวนการทำงานและลักษณะการใช้งาน สามารถแบ่งความแตกต่างออกได้เป็นข้อๆ ดังนี้

1. กระบวนการทำงาน

• การเชื่อม MIG ใช้ลวดเชื่อมที่ถูกป้อนออกมาอย่างต่อเนื่องทำให้การเชื่อมดำเนินไปได้รวดเร็ว เหมาะกับงานที่ต้องการรอยเชื่อมปริมาณมากและไม่ต้องการความละเอียดมาก
• การเชื่อม TIG ใช้ลวดทังสเตนที่ไม่ละลายและต้องการความชำนาญในการควบคุม ทำให้ได้รอยเชื่อมที่เรียบเนียน สะอาด และแม่นยำ

2. การป้องกันรอยเชื่อม

• การเชื่อม MIG ใช้แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์หรือแก๊สผสมในการปกป้องรอยเชื่อมซึ่งช่วยลดการเกิดออกไซด์
• การเชื่อม TIG ใช้แก๊สอาร์กอนเพียงอย่างเดียวในการปกป้องรอยเชื่อม ทำให้เกิดรอยเชื่อมที่สะอาดและทนทานกว่า

3. ความเร็วและปริมาณของรอยเชื่อม

• การเชื่อม MIG เหมาะสำหรับงานที่ต้องการรอยเชื่อมเร็วและปริมาณมาก เช่น งานโครงสร้าง งานในอุตสาหกรรมที่ต้องการปริมาณงานสูง
• การเชื่อม TIG มีความเร็วในการทำงานช้ากว่าเนื่องจากต้องการความแม่นยำ เหมาะกับงานที่ต้องการคุณภาพของรอยเชื่อมสูงมากกว่า

4. ความซับซ้อนในการใช้งาน

• การเชื่อม MIG ง่ายต่อการเรียนรู้และใช้ในงานทั่วไปได้ง่าย ไม่จำเป็นต้องมีทักษะเชิงลึก
• การเชื่อม TIG ต้องอาศัยความชำนาญและการฝึกฝนมากขึ้น เนื่องจากมีการควบคุมลวดเติมที่ซับซ้อน และต้องการความแม่นยำในระดับสูง

การเชื่อม MIG และ TIG มีวิธีการทำงานอย่างไร

1. วิธีการทำงานของการเชื่อม MIG

การเชื่อม MIG ใช้ลวดเชื่อมที่ถูกป้อนอย่างต่อเนื่องจากเครื่องป้อนลวด ลวดเชื่อมจะเกิดการหลอมละลายเมื่อกระแสไฟฟ้าเกิดอาร์กจากตัวเชื่อมไปยังชิ้นงาน โดยรอยเชื่อมจะเกิดจากการหลอมลวดเชื่อมและชิ้นงานเข้าด้วยกัน การใช้แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์หรือแก๊สผสมจะช่วยป้องกันรอยเชื่อมจากการปนเปื้อนของอากาศภายนอก กระบวนการนี้ทำให้การเชื่อมรวดเร็ว เหมาะสำหรับงานที่ไม่ต้องการความละเอียดหรือความแม่นยำสูง เช่น การเชื่อมโครงเหล็กหรือชิ้นส่วนที่ใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง

2. วิธีการทำงานของการเชื่อม TIG

การเชื่อม TIG ใช้ลวดทังสเตนที่ไม่หลอมละลายเป็นตัวนำกระแสไฟฟ้า เมื่ออาร์กถูกสร้างขึ้นระหว่างลวดทังสเตนและชิ้นงาน ผู้เชื่อมจะควบคุมการเชื่อมด้วยการเติมลวดเติมที่เป็นเนื้อโลหะเข้าไปในบริเวณที่ต้องการเชื่อม โดยกระบวนการนี้จะใช้แก๊สอาร์กอนเป็นแก๊สปกคลุมรอยเชื่อม ทำให้ได้รอยเชื่อมที่สะอาดและเรียบเนียน การเชื่อม TIG จึงเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความละเอียดสูง เช่น การเชื่อมสแตนเลส งานเชื่อมในอุตสาหกรรมอาหารและยา หรือการเชื่อมอะลูมิเนียม

การเชื่อม MIG และ TIG มีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกันตามลักษณะงานที่ต้องการ ความเร็ว ความละเอียด และคุณภาพของรอยเชื่อมเป็นปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณา การเชื่อม MIG เหมาะกับงานที่ต้องการความเร็วและปริมาณงานสูง ในขณะที่การเชื่อม TIG เหมาะกับงานที่ต้องการคุณภาพและความละเอียดในรอยเชื่อม การเลือกใช้วิธีการเชื่อมที่เหมาะสมจะช่วยให้ช่างสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและได้รอยเชื่อมที่สวยงาม

S.T.INTERTRADE ร้านขายเครื่องมือช่าง และอุปกรณ์เสริม สำหรับช่างมืออาชีพ จัดส่งด่วนภายใน 4 ชั่วโมง

S.T. Intertrade เป็นร้านขายเครื่องมือช่าง สมุทรปราการ โดยทางเรามีบริการจัดส่งสินค้าด่วนภายใน 4 ชั่วโมง สำหรับใครที่กำลังมองหาเครื่องมือช่าง และอุปกรณ์เสริม อื่น ๆ เรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอสินค้าคุณภาพเยี่ยม และการบริการที่เป็นเลิศจากร้านของเรา เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า ให้เกิดความพึงพอใจสูงสุดทุกครั้งที่มาใช้บริการ ในการสั่งซื้อเครื่องมือช่างที่มีคุณภาพ และราคาที่เหมาะสม ร้านขายเครื่องมือช่าง STintertrade เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ด้วยการจัดส่งสินค้าที่รวดเร็ว มีความหลากหลายให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น เครื่องมือช่างทุกชนิด, ปั๊มน้ำ, ตู้เชื่อม, เครื่องตบดิน และอื่น ๆ อีกมากมาย ด้วยบริการจัดส่งด่วน โดยผู้ใช้สามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับสินค้าที่มีคุณภาพ ราคาที่ยุติธรรม ติดต่อ STintertrade วันนี้เพื่อค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของคุณ

โทร: 099-490-6022

Website: https://www.stintertrade.com/

Facebook: www.facebook.com/stintertrade

Line: @stinter

ที่อยู่ 120/238 ซอย 18 หมู่11 ถ.เทพารักษ์ ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 10540