รายละเอียดเพิ่มเติม

Picture of ARC200 เครื่องเชื่อม(JASIC)

 

คุณสมบัติสินค้า
ขนาดลวดที่ใช้ 1.6-4.0
สารบัญ WELDING EQUIPMENT
กระแสไฟเชื่อม 20-160
ระดับป้องกันสิ่งแปลกปลอม IP23
ประสิทธิภาพ (%) 85
แรงดันไฟจ่ายขณะไร้ภาระ (โวลต์) 56
สัมประสิทธิทางไฟฟ้า 0.93
ระดับฉนวนกันความร้อน B
กระแสไฟฟ้า 23 (แอมป์)
กำลังไฟฟ้า 5.3 (กิโลโวลต์แอมป์)
แรงดันไฟฟ้า 220+-15%(SINGLE PHASE),50/60HZ
ความจุ 60 %
น้ำหนัก 8.25 KG
มิติ(ตัวสินค้า)(กว้างxยาวxสูง) 371X153X234 MM
แรงดันไฟในการเชื่อม 26.2 (โวลต์)

 

ภาพรวม (Product Overview )

เครื่องเชื่อมอินเวิร์ทเตอร์ JASIC รุ่น ARC 200 เป็นเครื่องเชื่อมระบบ INVERTER แบบอาร์ค (Manual Metal Arc – Welding) ขนาดกระทัดรัด น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายง่าย กระแสไฟเชื่อมคงที่ มีระบบป้องกันไฟกระชาก Over-Voltage และ Over-Current ประหยัดกระแสไฟฟ้า สามารถเชื่อมเหล็ก สแตนเลส และอลูมีเนียม ใช้ลวดเชื่อมทั่วไปได้เกือบทุกชนิด เป็นรุ่นยอดนิยมเนื่องจากใช้งานได้หลากหลาย

จุดเด่น (Features)

– น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายง่าย

– กระแสไฟเชื่อมคงที่

– มีระบบป้องกันไฟเกิน และป้องกันไฟตก

– ประหยัดไฟ

– รับประกัน 2 ปี

บรรจุภัณฑ์ (Packaging)

เครื่องเชื่อมอินเวิร์ทเตอร์ JASIC รุ่น ARC 200 ถูกบรรจุอยู่ในกล่องกระดาษแข็งพิมพ์ 4 สีอย่างดี ตัวเครื่องถูกห่อด้วยพลาสติก มีโฟมรองทั้งด้านหน้าและด้านหลังของตัวเครื่องเพื่อกันกระแทกไม่ให้ตัวเครื่องเกิดความเสียหาย สัญลักบณ์แบรนด์เจสิคนั้น บ่งบอกถึงความเป็นผู้นำในด้านเครื่องเชื่อมอินเวิร์ทเตอร์ ประกอบกับสโลแกน เชื่อมอึด ทน นาน!!! ท่านจึงมั่นใจได้ว่าเครื่องเชื่อมอินเวิร์ทเตอร์ JASIC รุ่น ARC 200 เครื่องนี้ เป็นเครื่องเชื่อมทีท่านสามารถใช้งานในการเชื่อมได้อย่างเต็มที่

อุปกรณ์ทั้งหมดในกล่อง (Products And Accessories)

1. เครื่องเชื่อมอินเวิร์ทเตอร์ JASIC รุ่น ARC 200

2. สายเชื่อมพร้อมคีมจับลวดเชื่อม (Electrode Holder) 300 แอมป์ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 16 ตร.มม. ยาว 7 ม.

3. สายดิน (Earth Clamp) 300 แอมป์ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 16 ตร.มม. ยาว 7 ม.

4. คู่มือการใช้งานของเครื่องภาษาไทย-อังกฤษ

5. ใบรับประกันสินค้า

6. หน้ากากเชื่อม พร้อมด้ามจับ

7. แปรงเคาะสเก็ด

การใช้งาน (Applications)

เครื่องเชื่อมอินเวิร์ทเตอร์ JASIC รุ่น ARC 200 มีความทนทาน ใช้งานได้ในขณะแรงดันไฟไม่คงที่ กระแสไฟเชื่อมออกมาเต็ม สามารถปรับกระแสไฟเชื่อมได้ตามความต้องการ กินไฟน้อย การอาร์คนิ่มนวล ควบคุมการเชื่อมได้ง่าย สะเก็ดไฟเชื่อมน้อย ใช้ได้กับลวดเชื่อมทุกชนิดตั้งแต่ขนาด 2.0 / 2.6 / 3.2 / 4.0 มม. สำหรับการเชื่อมโลหะที่หลากหลาย เช่น เหล็ก เหล็กคาร์บอน สแตนเลส และอื่นๆ เหมาะสำหรับการเชื่อมทุกประเภทที่ต้องการคุณภาพและต้องการสมรรถนะของเครื่องเชื่อมที่สามารถทนงานหนักได้ เช่น งานซ่อมบำรุง งานอุตสาหกรรม งานโครงสร้าง งานก่อสร้าง และงานเชื่อมอื่นๆ

วิธีการใช้งาน (How to use )

• เครื่องเชื่อมอินเวิร์ทเตอร์ JASIC รุ่น ARC 160 ตัวเครื่องมีสายไฟเป็นแบบปลั๊กเสียบ ที่มาพร้อมกับตัวเครื่อง คือ สายเชื่อมและสายดิน ซึ่งการต่อสายเชื่อมและสายดินเข้ากับตัวเครื่องจะต้องต่อที่ข้อต่อเกลียวด้านหน้าของตัวเครื่อง ซึ่งจะมีสัญลักษณ์และสีที่ข้อต่อชัดเจน

สายเชื่อมต่อเข้ากับข้อต่อเกลียวสีแดงที่เป็นเครื่องหมาย +

สายดินต่อเข้ากับข้อต่อเกลียวสีดำ ที่เป็นเครื่องหมาย –

• ปรับกระแสไฟในการเชื่อมให้เหมาะกับงาน ซึ่งขึ้นอยู่กับขนาดของลวดเชื่อมและชิ้นงาน เช่น ลวดเชื่อม 2.6 มม. กระแสไฟปรับอยู่ที่ 50-70 แอมป์

• นำสายดินไปจับกับชิ้นงาน

• นำคีมคีบลวดเชื่อมโดยให้ลวดเชื่อมให้อยู่ในต่ำแหน่งตั้งฉากกับคีมจับลวดเชื่อม (90 องศา) และจับคีมเชื่อมทำมุม 45 องศากับชิ้นงาน กดลวดเชื่อมลงไปแตะบนแผ่นเหล็กเบาๆ แล้วยกขึ้นโดยเร็วเมื่อเกิดการอาร์ค โดยบังคับทิศทางให้ลวดเชื่อมเคลื่อนที่ไปครั้งละ 2-3 มม. สามารถกำหนดทิศทางการเชื่อมได้ทั้งเดินหน้าและถอยหลัง

ข้อควรปฎิบัติ/ข้อควรระวังในการใช้งาน (Do and Don’t)

1.ก่อนใช้งานทุกครั้ง ควรใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล เช่น แว่นตาสำหรับงานเชื่อม ถุงมือหนัง ชุดกันสะเก็ดไฟ รองเท้าเซฟตี้ และอื่นๆ

2.ตรวจสอบกำลังไฟของแหล่งจ่ายไฟให้ถูกต้อง ตามกำลังไฟของเครื่องเชื่อมรุ่นนั้น

3. ตรวจสอบข้อต่อสายเชื่อม และสายดินทุกครั้งก่อนที่จะทำการเชื่อม รวมถึงปลั๊กไปและปลั๊กพ่วงต่างๆ

4. ตรวจสอบพัดลมระบายความ ว่าใช้งานได้ปกติ

5. ห้ามใช้งานใกล้กับวัสดุที่ติดไฟง่าย หรือสารไวไฟ

6. ขณะใช้งานต้องต่อสายดินทุกครั้งในการใช้งาน

7. การเชื่อมที่ใช้กระแสไฟสูง ต้องใช้สายไฟที่ทนกระแสสูงได้

การบำรุงรักษา (Maintenance)

1.หลังจากหยุดการใช้เครื่องแล้ว ควรปล่อยให้พัดลมระบายอากาศของเครื่องทำงานอย่างน้อย 10-15 นาที โดยเปิดเครื่องค้างไว้ เพื่อไม่ให้เกิดความร้อนไปสะสมที่แผนวงจร และป้องกันการเสียหายของอุปกรณ์ภายใน

2.ควรจะเป่าฝุ่นออกอย่างน้อยเดือนละ 1-2 ครั้ง เพราะฝุ่นละอองเป็นสาเหตุที่ทำให้ระบบอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ เกิดความเสียหายได้ ถ้ามีการสะสมมากๆจะทำให้ระบบวงจรบกพร่อง การไหลของวงจรกระแสไฟไม่ดีเท่าที่ควร