Home / Shop / อุปกรณ์ทำสวน การเกษตร / SAKARI FM-420 เครื่องตัดหญ้าสะพายหลังข้ออ่อน สูบเดียว เบนซิน 2จังหวะ 42.7cc

รายละเอียดเพิ่มเติม

SAKARI FM-420 เครื่องตัดหญ้าสะพายหลังข้ออ่อน สูบเดียว เบนซิน 2จังหวะ 42.7cc

เครื่องตัดหญ้าแบบสะพายบ่า มีข้อได้เปรียบตรงที่ทำให้พื้นที่ๆเข้าถึงยาก  เพราะการที่เครื่องตัดหญ้าแบบเข็นเข้าไม่ถึงนั้น แต่เครื่องตัดหญ้าแบบสะพายบ่านั้นสามารถทำได้   หนึ่งในอุปกรณ์หรือเครื่องมือที่จะช่วยให้สามารถจัดการกับปัญหาหญ้าที่รกรุงรังได้อย่างดีที่สุด ก็คงหนีไม่พ้นเครื่องตัดหญ้า ซึ่งเครื่องตัดหญ้านับว่าเป็นเครื่องมือที่ช่วยทุ่นแรงในการตกแต่งสนามหญ้าภายในบ้าน หรือสถานที่ต่างๆ ให้ออกมาดูสวยงามได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว หากเทียบกับการที่ต้องตัดหญ้าเองด้วยมีดและมือเปล่า

เครื่องตัดหญ้าไฟฟ้า เป็นเครื่องมือช่วยตัดและลดความสูงของหญ้าที่จะช่วยให้คุณกำจัดวัชพืชและตัดหญ้าภายในบริเวณบ้าน แถมยังช่วยประหยัดพลังงานเพราะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อมาใช้งานกับตัวเครื่องและสามารถใช้พลังงานสะอาดในการขับเคลื่อนอุปกรณ์ด้วยไฟฟ้า อุปกรณ์ชนิดนี้จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะสามารถช่วยให้คุณประหยัดเวลาและอำนวยความสะดวกให้การกำจัดวัชพืชได้ง่ายขึ้น

1.ใบมีดแบบเกลียวหมุน (cylinder/reel) ลักษณะคือ มีใบมีดรอบแกน ลักษณะเป็นเกลียว มีใบมีด 5-6ใบ ตัดหญ้าเสมอกันทำให้งานที่ออกมาเรียบ เหมาะกับงานที่ต้องการความเรียบร้อยเป็นพิเศษ

2.ใบมีดแบบใบพัด (rotary) มีทั้งใบเดียวเดี่ยวๆและใบมีดเป็นกลุ่ม อาศัยแรงเหวี่ยงและความเร็วรอบสูงๆ หากใบมีดไม่คม ก็ต้องควรลับให้คม เพราะจะช่วยให้ตัดหญ้าได้ราบเรียบยิ่งขึ้น

3.ใบมีดแบบบินร่อน (hover mower) ไม่ค่อยนิยมเท่าไหร่ เพราะควบคุมยาก เครื่องยนต์จะลอยตัวขณะตัด ใช้เวลามาก แต่น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายง่าย ใบมีดปลายเรียว ความเร็วรอบสูง จึงเกิดแรงดันอากาศ

ทริคเกี่ยวกับการตัดหญ้า

1.ใช้เครื่องตัดหญ้าให้เหมาะกับพื้นที่ หากพื้นที่มีขนาดเล็กควรใช้เครื่องตัดหญ้าแบบใช้ไฟฟ้าหรือใช้แบบเดินตามก็ได้ หากพื้นที่มีขนาดกว้างควรใช้เครื่องตัดหญ้าแบบนั่งขับ หรือถ้าดูรูปทรง เครื่องตัดหญ้าบางประเภทก็เหมาะกับที่กว้าง บางประเภทก็สามารถใช้กับซอกมุมได้

2.ถ้าพื้นสนามไม่ราบเรียบ ใช้เครื่องตัดหญ้าแบบใบพัดและแบบบินร่อนจะเหมาะสมกว่าแบบเกลียวหมุน

3.ใบมีดตัดหญ้านั้นควรใช้ให้เหมาะสมกับพื้นที่ ยิ่งพื้นที่มาก ใบมีดก็ควรจะกว้างตามด้วย

4.หากมีความจำเป็นที่ต้องตัดหญ้าช่วงฝนตก หรือว่าสนามกำลังเปียกชื้น อย่างแรกที่ไม่ควรทำเลยเด็ดขาดคือการใช้เครื่องตัดหญ้าแบบไฟฟ้า อาจจะเกิดอันตรายจากไฟดูดหรือไฟฟ้ารั่ว ถ้าใช้เครื่องตัดหญ้าแบบมีล้อหญ้าในสนามก็จะช้ำ เครื่องตัดหญ้าที่ควรใช้คือเครื่องตัดหญ้าแบบบินร่อน

เครื่องตัดหญ้าไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์ที่มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ใช้งานง่าย สะดวกสบาย สามารถตัดขอบสนามได้อย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับใช้งานกับพื้นสนามหญ้าที่ไม่ได้มีขนาดกว้างจนเกินไป

การดูแลรักษาเครื่องตัดหญ้า 2 จังหวะ

1.การเลือกน้ำมัน

ควรเลือกใช้น้ำมันเบนซิล เพราะน้ำมันเบนซิลจะถนอมการใช้ของเครื่องยนต์ได้ดีกว่าน้ำมันชนิด แก๊สโซฮอล์ (ซึ่งแก๊สโซฮอล์มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ทำให้กัดกร่อนอะไหล่ของเครื่องยนต์)

 

2.การผสมน้ำมัน

ผสมนำมัน เบนซิล กับ 2T ( ออโต้ลูป ) 25 : 1 หรือถ้าแบบเข้าใจกันง่ายๆ คือ น้ำมันเบนซิล 1 ลิตร ใช้ 2T ผสม 2 ฝาของถังน้ำมันตัวเครื่อง เขย่าให้เข้ากันก่อนจึงเทลงถังน้ำมันเครื่องตัดหญ้า (ห้ามลืมผสมน้ำมันเด็ดขาด หากลืมผสมจะทำให้เสื้อสูบและลูกสูบติด หรือผสมน้อยกว่าปริมาณที่กำหนดเป็นเวลานานจะทำให้เครื่องหลวมได้ )

 

3.การดูแลรักษาหลังการใช้งาน

3.1 นำจารบีมาอัดหัวเกียร์(ส่วนจับใบมีด) ประมาณ 2 อาทิตย์ ต่อครั้งหากใช้บ่อยควรอัดจารบีเพิ่มตามลำดับ เพื่อช่วยถนอมหัวเกียร์ไม่ให้เฟืองชำรุดง่าย

3.2 เมื่อต้องเลิกใช้งานเป็นเวลานานๆ ควรเทน้ำมันที่ตัวถังน้ำมันทิ้ง แล้วทำการสตาร์ทเครื่องทิ้งไว้ให้เครื่องดับไปเอง เพื่อช่วยให้เครื่องไม่มีน้ำมันเสียค้างที่คาร์บูเรเตอร์ ช่วยรักษาคาร์บูเรเตอร์ให่ไม่เสื่อสภาพไว

3.3 เก็บเครื่องตัดหญ้า โดยการห่อถุงไว้ที่หัวเครื่องตัดหญ้า เพื่อไม่ให้แมลงเข้าไปทำรังที่ท่อไอเสียทำให้เครื่องเสียหาย

คำแนะนำ

  • ควรเก็บในที่แห้ง มิดชิด และพ้นมือเด็ก
  • ควรเช็ดทำความสะอาด ทุกครั้งหลักเลิกใช้งาน
  • ควรตรวจสอบสภาพก่อนใช้งานทุกครั้ง

———————————————————————————————————————

  • สำหรับตัดหญ้า เพื่อให้ได้ขนาดตามความต้องการ
  • กระบอกสูบ 42.7 CC.
  • เครื่องยนต์เบนซิน 2 จังหวะ
  • ความเร็วรอบมอเตอร์ 6500รอบ/นาที
  • สีส้ม

เครื่องตัดหญ้าก็เป็นอุปกรณ์ทางการเกษตรอีกอย่างหนึ่งที่มีความจำเป็นมากทีเดียว ถึงแม้ว่าในปัจจุบันคนส่วนใหญ่จะหันมาใช้วิธีการฉีดยาหญ้าแทน เพราะสะดวกและเร็วกว่าก็ตาม เนื่องจากพืชพรรณการเกษตรบางชนิดก็ไม่สามารถโดนยาฉีดได้ จึงต้องใช้วิธีการตัดหญ้าด้วยเครื่องตัดหญ้าแทนนั่นเอง แต่การใช้เครื่องตัดหญ้านั้นจะต้องหมั่นดูแลรักษาให้ดีอยู่บ่อยๆ ทั้งนี้ก็เพื่อให้เครื่องตัดหญ้ามีอายุการใช้งานที่ยาวนานและไม่ชำรุดเสียหายได้ง่ายนั่นเอง ซึ่งมีวิธีการดูแลรักษาดังนี้

1. ต้องใช้น้ำมันเบนซิน

ต้องใช้น้ำมันเบนซินเท่านั้น ไม่ควรใช้น้ำมันชนิดอื่นเป็นอันขาดเพราะจะทำให้เครื่องตัดหญ้าเสียได้ ซึ่งน้ำมันที่ใช้ก็อาจจะเป็นเบนซิน 91 หรือ 95 ก็ได้ค่ะ

2. เช็คน็อตขันใบตัดก่อนใช้งานทุกครั้ง

ต้องเช็คน๊อตขันใบตัดก่อนเสมอ เพื่อดูว่าขันแน่นหรือไม่ เพราะหากขันไม่แน่นก็อาจจะทำให้เกิดอันตรายในขณะตัดหญ้าได้ อีกทั้งยังจะทำให้เครื่องตัดหญ้าชำรุดเสียหายได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นก่อนที่จะสตาร์ทเครื่องตัดหญ้า คุณควรขันน็อตให้แน่นก่อนทุกครั้งด้วยนะคะ

3. อัดจารบีก่อนใช้เครื่องตัดหญ้าเสมอ

อัดจารบีก่อนนำเครื่องตัดหญ้ามาใช้ทุกครั้งหรือทุกๆ 20 ชม. เพราะจารบีจะช่วยให้ใบตัดทำงานได้ดีขึ้นและยังช่วยลดความร้อนของเครื่องตัดหญ้าลงอีกด้วย ซึ่งหากคุณปล่อยให้จารบีหมด คุณจะสังเกตได้เลยว่า เครื่องตัดหญ้ามักจะติดๆ ดับๆ และตัวเครื่องร้อนเร็วกว่าปกติจนต้องปิดเครื่องพักอยู่บ่อยๆ นั่นเอง

4.1 ใส่น้ำมันออโตลูป 2T ให้ครบตามกำหนด

น้ำมันผสมก็มีความสำคัญมากเช่นกัน เพราะหากคุณใส่น้ำมันผสมไม่ครบ นอกจากจะทำให้เครื่องตัดหญ้าใช้งานได้ไม่ดีแล้ว ยังทำให้เครื่องตัดหญ้าเสียเร็วอีกด้วย ซึ่งโดยปกติแล้วน้ำมันออโตลูปจะใส่ 1 ฝาต่อน้ำมัน 1 ลิตร แต่ควรเป็นฝาที่ได้มาตรฐานด้วยนะคะ เพราะหากเป็นฝาที่เล็กกว่ามาตรฐาน ก็จะทำให้เครื่องเสียได้เหมือนกัน

4.2 ใส่น้ำมันเครื่อง 4T

สำหรับเครื่องตัดหญ้า4จังหวะ ต้องมีน้ำมันเครื่องทุกครั้ง เวลาใช้งาน ระยะเวลาการถ่ายน้ำมันเครื่อง หลังจากการใช้งานครั้งแรก 10ชม. หลังจากนั้น50ชม./ครั้ง ควรเติมให้พอดี หรือใส่เยอะกว่าหรือน้อยกว่า

5. เก็บเครื่องตัดหญ้าไว้ในที่ร่ม

สำหรับการเก็บเครื่องตัดหญ้า คุณควรเก็บไว้ในที่ร่มเท่านั้น ไม่ควรให้เครื่องตัดหญ้าตากแดดนานๆ เป็นอันขาด เพราะจะทำให้ชิ้นส่วนที่เป็นยางเสื่อมสภาพได้นั่นเอง

สนใจสอบถามเพิ่มเติม 082-078-5222 E-Mail : s.t.inter@hotmail.com Line : @stinter